วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

อินโดฯเห็นใจโรฮิงญา ประท้วงขับไล่ทูตพม่า

       ชาวอินโดนีเซียราว 100 คน รวมตัวกันเพื่อประท้วงหน้าสถานทูตพม่าเมื่อวันพฤหัสบดี และเรียกร้องให้ขับไล่ทูตพม่าออกจากประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากสิ่งที่พม่าทำกับชาวโรฮิงญา
ผู้ประท้วงสวมผ้าโพกศีรษะสีขาว มีข้อความสีแดงเขียนว่า "ช่วยโรฮิงญา" และถือป้ายประท้วงซึ่งมีข้อความว่า "หยุดความรุนแรง" การเดินขบวนครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยกลุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่า สมาคมเอกภาพโรฮิงญา และในการแถลงข่าว กลุ่มนี้เรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายอมรับชาวโรฮิงญาเป็นพลเมืองของประเทศอย่างเป็นทางการ
       นอกจากนี้ มีผู้ประท้วงบางรายขว้างปาไข่เข้าไปในสถานทูต และยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน หยุดให้การสนับสนุนประเทศพม่า ในการเข้าร่วมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนในปี 2557 อีกด้วย
ความรุนแรงระหว่างชาวพุทธและโรฮิงญาปะทุขึ้นในเดือนมิถุนายน ที่รัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศพม่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 80 รายจากทั้งสองฝ่ายตามการคาดคะเนของทางรัฐบาล ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ มองว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำเกินไป และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยมากราว 60,000 รายจากเหตุรุนแรงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญา กลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์ในนิวยอร์ก กล่าวหาว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่าเป็นผู้เริ่มเปิดศึกกับโรฮิงญาก่อน รวมถึงก่อคดีข่มขืน และเอาแต่ยืนมองฝูงชนเข้าปะทะกับฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ทำอะไร รัฐบาลพม่าพิจารณาว่า ชาวโรฮิงญาราว 800,000 คนในประเทศนั้นเป็นชาวต่างชาติ อีกทั้งชาวพม่ามากมายเห็นว่าพวกเขาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ จึงไม่มีความเป็นมิตรให้ การถูกแบ่งแยกนานนับสิบปีทำให้ชาวโรฮิงญากลายเป็นผู้ไม่มีสัญชาติ และทำให้องค์การสหประชาชาติมองว่าเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่ถูกข่มเหงมากที่สุดในโลก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น