Thursday , 26 Jul 2012
Presstv - ชาวอิหร่านหลายร้อยคนได้จัดการชุมนุมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวมุสลิมเชื้อชาติโรฮิงญาในพม่า และประท้วงต่อการเข่นฆ่าพวกเขาในประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้
ระหว่างการชุมนุมที่จัดขึ้นด้านหน้าสำนักงานสหประชาชาติในกรุงเตหะรานเมื่อวันอังคาร ผู้ชุมนุมชาวอิหร่านได้ตะโกนคำขวัญประมาณความโหดร้ายที่กระทำต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา และเรียกร้องให้ยุติการเข่นฆ่าที่กำลังเกิดขึ้นในพม่าทันที
อิหร่านเรียกร้องให้นาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ดำเนินการในทันทีและเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนชาวมุสลิมในประเทศ
ในจดหมายที่ส่งให้แก่พิลเลย์ ซัยยิด มุฮัมมัด เรซา ซัจจาดี ผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสำนักงานภาคพื้นยุโรปในกรุงเจนิวาของสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน ดำเนินการในทันทีและอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประณามและเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางต่อชาวมุสลิมผู้บริสุทธิ์ของพม่า” โดยเร็ว
เขายังได้แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อความรุนแรงและการฆ่าอย่างแพร่หลายต่อชาวมุสลิมในพม่า ซึ่งรวมทั้งผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก
ซัจจาดีเน้นย้ำว่า คลื่นความรุนแรงลูกใหม่ต่อชาวมุสลิมในพม่า ซึ่งนำไปสู่การสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์หลายร้อยคน และเผามัสยิดและบ้านเรือน และการบังคับขับไล่ประชาชนออกจากบ้านเรือนของพวกเขา ได้ทำร้ายความรู้สึกเมตตาสงสารและก่อให้เกิดความกังวลใจอย่างยิ่งแก่ประชาคมระหว่างประเทศและชาวโลก
รัฐบาลพม่าปฏิเสธการรับรองชาวมุสลิมโรฮิงญา ที่พวกเขาอ้างว่าไม่ใช่ชนพื้นเมืองและถือว่าพวกเขาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย ขณะที่ชาวโรฮิงญาเป็นลูกหลานของมุสลิมชาวเปอร์เซีย, ตุรกี,เบงกอล และปาทาน ที่ได้อพยพมายังพม่าเมื่อศตวรรษที่ 8
ประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า กล่าวเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมว่า “ทางออกเดียว” สำหรับชะตากรรมของมุสลิมโรฮิงญาคือการส่งชาวมุสลิมเกือบหนึ่งล้านคนของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่ถูกกลั่นแกล้งมากที่สุดในโลก ไปยังค่ายผู้ลี้ภัยของข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR)
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเพื่อผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติได้ปฏิเสธความคิดที่จะจัดตั้งค่ายผู้ลี้ภัยเพื่อรองรับชาวโรฮิงญา
“เราจะส่งพวกเขาออกไปถ้ามีประเทศที่สามยอมรับพวกเขา” เต็งเส่งกล่าว “นี่คือสิ่งที่เรากำลังคิดว่าเป็นทางออกของเรื่องนี้”
แม้แต่นางอองซาน ซูจี ตัวแทนประชาธิปไตยที่ตะวันตกสนับสนุนก็ยังคงนิ่งเงียบกับความโหดร้ายที่กระทำต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา
ตลอดสองปีที่ผ่านมา ชาวมุสลิมกลุ่มนี้พยายามที่จะหลบหนีการกดขี่ของรัฐบาลพม่าออกไปทางเรือ